« »
ชีวิตของหญิงสาวบ้านนอกคอกนา จะต้องมาศึกษาต่อในมหาลัยชื่อดัง ชีวิตของเธอกำลังจะมีความสุขดี แต่ก็ต้องพบกับหายนะ เธอจะรอดจากรั้วมหาวิทยาลัยหรือไม่
ผู้เข้าชมรวม
358
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เธอก้าวเท้าเดินลงจากรถกระบะคันสีเขียวมายืนอยูที่หน้าประตูรั้วของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ ที่เธอจะต้องมาศึกษาต่อ ณ ที่แห่งนี้ เธอกวาดสายตามองไปยังพื้นที่รอบๆ
“ ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะอยู่ที่นี่คนเดียวได้น่ะ ”
เสียงแหบพร่าของชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่เบาะคนขับรถกระบะคันสีเขียวเขายกมือไปกดปุ่มที่ประตูขวาของเขาเพื่อลดกระจกลงมาคุยกับลูกสาวของเขาก่อนจะนำมือกลับเข้ามาจับที่พวกมาลัยเช่ยเดิม มือทั้งสองข้างของเขายังคงจับที่พวงมาลัยแน่น ใบหน้าหันมามองที่หญิงสาว ภายในใจของเขายังคงไม่แน่ใจและไม่แน่นอนที่จะให้เธอมาศึกษาต่อในสถานที่ห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนที่เราไม่คุ้นเคยและไม่รู้จักมัน
“ อื้อ แน่สิ ”
เธอหันมายิ้มให้กับคุณพ่อที่ขับรถมาส่งให้ถึงหน้ารั้วของมหาวิทยาลัย ก่อนที่เธอจะเดินไปยังท้ายรถเพื่อเปิดกระบะท้ายรถและนำเอาของใช้ส่วนตัวของเธอลงมาจากรถกระบะคันสีเขียว มือยื่นไปคว้ากระเป๋าใบใหญ่สองใบ กระเป๋าสีดำใบแรก เป็นกระเป๋าที่ใช้ใส่เสื้อผ้าของเธอลงไปในนั้น และกระเป๋าที่สองเป็นกระเป๋านักเรียนสะพายหลังเธอจึงคว้ามันมาสะพายที่หลัง เมื่อนำของทั้งหมดลงมาหมดแล้ว เธอจะจึงขนของเดินไปหาพ่อของเธออีกครั้ง
“ ขอบคุณ ที่มาส่งนะคะ ”
เธอยิ้มให้กับพ่อของเธออีกครั้ง
“ ถ้าลูกเหนือยหรือไม่ไหว บอกพ่อนะลูก พ่อจะรีบมารับรีบมารับทันทีเลย ”
พ่อของเธอบอกกล่าวกับลูกสาวของตน พร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ในตา ก่อนที่มันจะไหลออกมาเขาจึงหัาหน้าไปด้านข้างและยกมือขึ้นไปเช็ดมันออก
“ การเรียนเรียนมันก็ต้องเหนื่อยบ้างเป็นธรรมดาแหละจ๊ะพ่อ แต่ถ้าเราไม่ขยันขันแข็ง เราก็จะไม่ประสบความสำเร็จ จริงไหมจ๊ะ พ่ออย่าร้องไห้เลยนะ เดี๋ยวนางจะโทรหานะ ”
เธอเห็นพ่อที่หันหน้าหนีเธอไป ก่อนที่จะเข้าไปสวมกอดพ่อเธอผ่านกระจกรถ เมื่อกอดไปสักพักเธอจึงคลายกอดออก และถอยตัวออกมา
“ พ่อแม่และพวกพี่ชายของลูกจะรออยู่ที่บ้านเสมอนะ ”
คนเป็นพ่อหันกลับมามองลูกสาวของเขาอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ในใบหน้า แม้มันยากยากที่จะต้องห่างไกลกับลูกแท้ๆของตน แต่ก็ต้องปล่อย เพื่อให้ลูกมีการเรียนรู้ที่ดี และเดินทางอนาคตที่ดี
“ จ๊ะ เดี๋ยวนางจะโทรหานะ ”
ว่าแล้วเธอก็โบกมือลาให้แก่พ่อของเธอ และจำใจถือกระเป๋าเดินเขาสู่ประตูรั้วมหาวิทยาลัยทันที ผ่านสายตาของพ่อไปแล้ว ก็จำใจต้องลาจากลูกสาวและขับรถกลับถิ่นบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
“ ถ้าจำไม่ผิด เราจะต้องไปหาห้องกิจการก่อนสินะ ”
หันมองซ้ายหันมองขวา ไปทางไหนล่ะเนี่ย? สถานที่ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะน้อยด้วยสิ ควรเริ่มจากจากฝั่งไหนดีล่ะ หรือจะลองถามดูดีไหมนะ โอ้ นั่นไง! เจอสาวสวยสองคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วย ลองไปไปถามดูดีกว่า!
“ ขอโทษนะคะ ขอถา–! โอ๊ย!? ”
ยังไม่สิ้นสุดคำพูดคำจา ฉันก็เหมือนโดนอะไรบ้างอย่างชนกระแทกเข้ามาที่หลังอย่างจัง จนทำให้ตัวเองต้องล้มตัวลงไปนั่งกับพื้น ทำให้ก้นของฉันร่วงลงกระแทกกับพื้นจนดังตุ๊บ เท่านั่นยังไม่พอ กระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้าและของส่วนตัวของฉันยังหล่นลงมาทับขาของฉันเต็มๆอีก
“ โอยย ก้นฉัน! ”
ใครมันวิ่งหรือทำอะไร ไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างหรือไงกันนะ!
“ โอ๊ยๆ ขอโทษทีครับ พอดีผมกำลังหนีเพื่อนอยู่น่ะ เป็นอะไรมากไหมครับ ”
เสียงอันนุ่มนวลและทุ้มลึกพูดขึ้นมา เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูง ผมสีน้ำตาลเข้ม หน้าตาถือว่าหล่อเหลาระดับพรีเมี่ยมเลยล่ะ(?) ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมายืนปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเขาเอง ก่อนจะยื่นมือของเขาออกมาให้จับ
“ เอ๊ย ไม่เป็นอะไรค่ะ ”
ฉันยื่นมือออกไปจับมือของเขาก่อนจะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นยืน โดยที่มีเขาออกแรงช่วยดึงขึ้นมา
“ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ ผมไม่ทันดู ”
“ อ๊ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ ”
ฉันยิ้มให้เขาพร้อมด้วยท่าทางทางที่เป็นมิตรก่อนที่เราทั้งสองจะปล่อยมือออกจากัน เขาก็ต่างยิ้มให้กลับ ก่อนที่เราทั้งคู่จะสะดุ้งเพราะเสียงของอีกคน
“ เฮ้ยหยาง! รอกูด้วย! ”
ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่วิ่งมาทางด้านหลังของเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจกับเสียงตะโกนของอีกคนคนสักเท่าไหร่เลยนะ
“ อ่า ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยนะ เป็นนักศึกษาใหม่เหรอ? ”
ตรงข้ามกันเลยแหะ แทนที่เขาจะสนใจกับเสียงตะโกนของเพื่อนเขา แต่เขากลับหันมาถามฉันแทน
“ อะ! ใช่แล้วค่ะ ”
ฉันพยักหน้าหงึกๆให้กับเขา
“ ฉันชื่อหยางนะ ชื่อจริงของฉัน เทพารักษ์ วิโรจน์โยธา แล้วเธอละ? ”
เขายิ้มให้กับคำตอบของฉัน ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดชื่อของเขาออกมา ก็เป็นเวลาที่เหมาะเจาะที่เพื่อนของเขาวิ่งมาถึงพอดีพร้อมกับอาการที่เหนื่อยหอบ
“ อะ ฉันชื่อ เอ่อ ใบตองจ๊ะ เมทิวา อันทวี ชื่อเล่นเป็นของต้นไม้ที่ออกผลสีเหลืองที่เรียกว่ากล้วยล่ะนะ อยู่ปีหนึ่งจ๊ะ ”
ชื่อฉันมันก็ไม่ได้แปลกเท่าไหร่หรอก แต่คิดว่าบางครั้งมันก็น่าอายดีแหะที่ ชื่ออาจจะแตกต่างและไม่เหมือนคนในเมืองใหญ่เขาล่ะนะ
“ งั้นเหรอ เฮ้อาร์ต เราเป็นรุ่นพี่แหละ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ”
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันได้ขึ้นสถานะว่าเป็นเขานั้นเป็นรุ่นพี่ นั่นคือรุ่นพี่งั้นเหรอ เขายิ้มให้กับฉันก่อนที่จะเขาหันไปพูดกับเพื่อนชายที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“ ห๊ะ? ”
ชายหนุ่มผมสีทองอ่อนที่ชื่อว่าอาร์ตเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนชายอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา และพูดออกมาอย่างงงๆ ว่าตัวพวกเขานั้นเป็นรุ่นพี่
“ นี่ คนข้างๆพี่ มันชื่อว่าอาร์ตนะ พวกเราอยู่ปีสอง ส่วนเธออยู่ปีหนึ่ง นั่นคือหลักฐานว่าเราคือรุ่นพี่ เย้! ”
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันพูดออกมาพร้อมกับทำท่าทางแสดงความดีใจ(มั้ง)ออกมา
“ แล้วๆ เธอเรียนอยู่คณะไหนกันล่ะ? ”
“ อะ ฉันเรียนอยู่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศค่ะ ”
“ ว้าว! เราศึกษาอยู่คณะเดียวกันด้วย! ถ้าเดินสวนกัน หรือเดินผ่านกัน อย่าลืมทักทายด้วยล่ะ ”
ชายร่างสูงที่ชื่อว่าอาร์ตพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนที่เขายกกำหมัดในมือข้างข้างซ้ายเข้าไปต่อยหลังเพื่อนชายของเขาที่อยู่ด้านหน้าจนเจ้าตัวสะดุ้งและหันกลับมาเตะอีกฝ่ายแทน!
“ เอ่อ– ร-รุ่นพี่พอจะช่วยบอกทางหน่อยได้ไหมคะ ว่าห้องกิจการไปทางไหน ”
ในระหว่างที่เขากำลังจะตีกันอีกรอบ ฉันก็ตัดสินใจถามขึ้นมาก่อน
“ จะไปห้องกิจการทำไมเหรอ? ”
รุ่นพี่กวางถามขึ้นมาก่อนจะเอียงคอมองฉันด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัย
“ คือว่า ฉันเป็นนักเรียนทุนน่ะค่ะ กะว่าจะไปรายงานตัวให้เขาทราบก่อน ”
“ เธอคงจะเก่งมากแน่ๆ ถึงได้ทุนมาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่นี่นะ ให้ทุนนักศึกษาน้อยมากเลย ”
อาร์ตเอ่ยปากชมออกมาก่อนที่เขาจะยืนกอดอกพยักหน้าให้กับฉัน
“ แต่ว่านะ เหลือเวลาอีกตั้งสามวันแน่ะ จะเปิดภาคเรียน ดูรีบร้อนจังเลยนะ ”
หยางพูดออกมาพรอมกับมองสถานที่รอบๆภายในมหาวิทยาลัย
“ การมาเตรียมการก่อนก็ดีไม่ใช่เหรอคะ? ”
“ มันก็ดี แต่รีบเกินไปมันก็ต้องรอนะสิ ”
ทั้งหยางและอาร์ตพูดออกมาพร้อมกันก่อนจะกรอกตามองบน
“ งั้นเธอคงได้อยู่ในห้องพักที่มหาวิทยาลัยเตรียมให้สินะ ”
อาร์ตพูดออกมาพร้อมกับชี้ให้ฉันหันมองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สิ่งที่ฉันเห็นคือ ตึกสีขาว หอพักเป็นชั้นๆเหมือนกับอพาร์ทเม้นท์นอกชานเมืองเลย ติดแค่เพียงว่า มันหลายชั้น และสูงกว่ามาก
“ พวกพี่พักอยู่ด้านนอกของมหาวิทยาลัย เพราะพวกเราไม่ใช่นักเรียนทุน ”
หยางเองก็หันไปมองตามทิศทางที่อาร์ตชี้ไปให้เห็น
“ งั้นเองเหรอคะ ”
“ โอเค พักเรื่องนี้ไว้กอนเถอะ เดี๋ยวพวกเราจะนำทางให้ ตามมาสิ ”
หยางหันมายิ้มให้กับฉันก่อนที่เขาจะก้มลงไปจับสายกระเป๋าสีดำของฉันที่ใส่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวขึ้นมาสะพายพาดบ่าของเขาก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินนำไป
“ เอ๊ะเดี๋ยวสิ กระเป๋าของฉัน มันหนักนะคะ! ”
ฉันตื่นตระหนกกับการกระทำของรุ่นพี่หยางก่อนที่จะรีบวิ่งมาขัดเขาทางด้านหน้าเอาไว้ก่อน
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้เอง ถือซะว่าเป็นการขอโทษที่วิ่งชนก่อนหน้านี้นะ ”
รุ่นพี่หยางพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส ก่อนที่เขาจะเดินนำไปข้างหน้าอีกรอบ ฉันก็ได้แต่ยืนเลิ่กลัก ก่อนที่จะสิ่งตามหลังรุ่นพี่หยางไป
“ อิ๊ว แหวะ! ”
อาร์ตหันไปทำหน้าอี๋แหวะ เมื่อเห็นเพื่อนชายของเขาออกตัวช่วยรุ่นน้อง ก่อนที่เขาจะเดินตามหลับทั้งเพื่อนำชาย และรุ่นน้องของเขาไป
ผลงานอื่นๆ ของ emeraldgreen13 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ emeraldgreen13
ความคิดเห็น