« » - นิยาย « » : Dek-D.com - Writer
×

    « »

    ชีวิตของหญิงสาวบ้านนอกคอกนา จะต้องมาศึกษาต่อในมหาลัยชื่อดัง ชีวิตของเธอกำลังจะมีความสุขดี แต่ก็ต้องพบกับหายนะ เธอจะรอดจากรั้วมหาวิทยาลัยหรือไม่

    ผู้เข้าชมรวม

    358

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    358

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    6
    จำนวนตอน :  16 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 พ.ย. 67 / 21:42 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     “  ฮ่าา ที่นี่สินะ ”


        เธอก้าวเท้าเดินลงจากรถกระบะคันสีเขียวมายืนอยูที่หน้าประตูรั้วของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ ที่เธอจะต้องมาศึกษาต่อ ณ ที่แห่งนี้ เธอกวาดสายตามองไปยังพื้นที่รอบๆ 


    “ ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะอยู่ที่นี่คนเดียวได้น่ะ ” 


     เสียงแหบพร่าของชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่เบาะคนขับรถกระบะคันสีเขียวเขายกมือไปกดปุ่มที่ประตูขวาของเขาเพื่อลดกระจกลงมาคุยกับลูกสาวของเขาก่อนจะนำมือกลับเข้ามาจับที่พวกมาลัยเช่ยเดิม มือทั้งสองข้างของเขายังคงจับที่พวงมาลัยแน่น ใบหน้าหันมามองที่หญิงสาว ภายในใจของเขายังคงไม่แน่ใจและไม่แน่นอนที่จะให้เธอมาศึกษาต่อในสถานที่ห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนที่เราไม่คุ้นเคยและไม่รู้จักมัน 


    “ อื้อ แน่สิ ”


     เธอหันมายิ้มให้กับคุณพ่อที่ขับรถมาส่งให้ถึงหน้ารั้วของมหาวิทยาลัย ก่อนที่เธอจะเดินไปยังท้ายรถเพื่อเปิดกระบะท้ายรถและนำเอาของใช้ส่วนตัวของเธอลงมาจากรถกระบะคันสีเขียว มือยื่นไปคว้ากระเป๋าใบใหญ่สองใบ กระเป๋าสีดำใบแรก เป็นกระเป๋าที่ใช้ใส่เสื้อผ้าของเธอลงไปในนั้น และกระเป๋าที่สองเป็นกระเป๋านักเรียนสะพายหลังเธอจึงคว้ามันมาสะพายที่หลัง เมื่อนำของทั้งหมดลงมาหมดแล้ว เธอจะจึงขนของเดินไปหาพ่อของเธออีกครั้ง 


    “ ขอบคุณ ที่มาส่งนะคะ ”


      เธอยิ้มให้กับพ่อของเธออีกครั้ง


    “ ถ้าลูกเหนือยหรือไม่ไหว บอกพ่อนะลูก พ่อจะรีบมารับรีบมารับทันทีเลย ”


     พ่อของเธอบอกกล่าวกับลูกสาวของตน พร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ในตา ก่อนที่มันจะไหลออกมาเขาจึงหัาหน้าไปด้านข้างและยกมือขึ้นไปเช็ดมันออก 


    “ การเรียนเรียนมันก็ต้องเหนื่อยบ้างเป็นธรรมดาแหละจ๊ะพ่อ แต่ถ้าเราไม่ขยันขันแข็ง เราก็จะไม่ประสบความสำเร็จ จริงไหมจ๊ะ พ่ออย่าร้องไห้เลยนะ เดี๋ยวนางจะโทรหานะ ” 


     เธอเห็นพ่อที่หันหน้าหนีเธอไป ก่อนที่จะเข้าไปสวมกอดพ่อเธอผ่านกระจกรถ เมื่อกอดไปสักพักเธอจึงคลายกอดออก และถอยตัวออกมา 


    “ พ่อแม่และพวกพี่ชายของลูกจะรออยู่ที่บ้านเสมอนะ ” 


     คนเป็นพ่อหันกลับมามองลูกสาวของเขาอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ในใบหน้า แม้มันยากยากที่จะต้องห่างไกลกับลูกแท้ๆของตน แต่ก็ต้องปล่อย เพื่อให้ลูกมีการเรียนรู้ที่ดี และเดินทางอนาคตที่ดี 


    “ จ๊ะ เดี๋ยวนางจะโทรหานะ ” 


     ว่าแล้วเธอก็โบกมือลาให้แก่พ่อของเธอ และจำใจถือกระเป๋าเดินเขาสู่ประตูรั้วมหาวิทยาลัยทันที ผ่านสายตาของพ่อไปแล้ว ก็จำใจต้องลาจากลูกสาวและขับรถกลับถิ่นบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง 

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    “ ถ้าจำไม่ผิด เราจะต้องไปหาห้องกิจการก่อนสินะ ” 

     

      หันมองซ้ายหันมองขวา ไปทางไหนล่ะเนี่ย? สถานที่ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะน้อยด้วยสิ ควรเริ่มจากจากฝั่งไหนดีล่ะ หรือจะลองถามดูดีไหมนะ โอ้ นั่นไง! เจอสาวสวยสองคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วย ลองไปไปถามดูดีกว่า!  


    “ ขอโทษนะคะ ขอถา–!  โอ๊ย!? ”


     ยังไม่สิ้นสุดคำพูดคำจา ฉันก็เหมือนโดนอะไรบ้างอย่างชนกระแทกเข้ามาที่หลังอย่างจัง จนทำให้ตัวเองต้องล้มตัวลงไปนั่งกับพื้น ทำให้ก้นของฉันร่วงลงกระแทกกับพื้นจนดังตุ๊บ เท่านั่นยังไม่พอ กระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้าและของส่วนตัวของฉันยังหล่นลงมาทับขาของฉันเต็มๆอีก 


    “ โอยย ก้นฉัน! ” 


      ใครมันวิ่งหรือทำอะไร ไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างหรือไงกันนะ! 


    “  โอ๊ยๆ ขอโทษทีครับ พอดีผมกำลังหนีเพื่อนอยู่น่ะ เป็นอะไรมากไหมครับ ”


    เสียงอันนุ่มนวลและทุ้มลึกพูดขึ้นมา เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูง ผมสีน้ำตาลเข้ม หน้าตาถือว่าหล่อเหลาระดับพรีเมี่ยมเลยล่ะ(?) ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมายืนปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเขาเอง ก่อนจะยื่นมือของเขาออกมาให้จับ 


    “ เอ๊ย ไม่เป็นอะไรค่ะ ” 


    ฉันยื่นมือออกไปจับมือของเขาก่อนจะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นยืน โดยที่มีเขาออกแรงช่วยดึงขึ้นมา 


    “ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ ผมไม่ทันดู ”


    “ อ๊ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ ” 


    ฉันยิ้มให้เขาพร้อมด้วยท่าทางทางที่เป็นมิตรก่อนที่เราทั้งสองจะปล่อยมือออกจากัน เขาก็ต่างยิ้มให้กลับ ก่อนที่เราทั้งคู่จะสะดุ้งเพราะเสียงของอีกคน


    “ เฮ้ยหยาง! รอกูด้วย! ”


     ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่วิ่งมาทางด้านหลังของเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจกับเสียงตะโกนของอีกคนคนสักเท่าไหร่เลยนะ 


    “ อ่า ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยนะ เป็นนักศึกษาใหม่เหรอ? ” 

     

    ตรงข้ามกันเลยแหะ แทนที่เขาจะสนใจกับเสียงตะโกนของเพื่อนเขา แต่เขากลับหันมาถามฉันแทน 


    “ อะ! ใช่แล้วค่ะ ” 


    ฉันพยักหน้าหงึกๆให้กับเขา 


    “ ฉันชื่อหยางนะ ชื่อจริงของฉัน เทพารักษ์ วิโรจน์โยธา  แล้วเธอละ? ” 


    เขายิ้มให้กับคำตอบของฉัน ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดชื่อของเขาออกมา ก็เป็นเวลาที่เหมาะเจาะที่เพื่อนของเขาวิ่งมาถึงพอดีพร้อมกับอาการที่เหนื่อยหอบ 


    “ อะ ฉันชื่อ เอ่อ ใบตองจ๊ะ เมทิวา อันทวี ชื่อเล่นเป็นของต้นไม้ที่ออกผลสีเหลืองที่เรียกว่ากล้วยล่ะนะ อยู่ปีหนึ่งจ๊ะ ” 


    ชื่อฉันมันก็ไม่ได้แปลกเท่าไหร่หรอก แต่คิดว่าบางครั้งมันก็น่าอายดีแหะที่ ชื่ออาจจะแตกต่างและไม่เหมือนคนในเมืองใหญ่เขาล่ะนะ 


    “ งั้นเหรอ เฮ้อาร์ต เราเป็นรุ่นพี่แหละ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ” 


    คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันได้ขึ้นสถานะว่าเป็นเขานั้นเป็นรุ่นพี่ นั่นคือรุ่นพี่งั้นเหรอ เขายิ้มให้กับฉันก่อนที่จะเขาหันไปพูดกับเพื่อนชายที่ยืนอยู่ข้างๆเขา


    “ ห๊ะ? ” 


    ชายหนุ่มผมสีทองอ่อนที่ชื่อว่าอาร์ตเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนชายอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา และพูดออกมาอย่างงงๆ ว่าตัวพวกเขานั้นเป็นรุ่นพี่ 


    “ นี่ คนข้างๆพี่ มันชื่อว่าอาร์ตนะ พวกเราอยู่ปีสอง ส่วนเธออยู่ปีหนึ่ง นั่นคือหลักฐานว่าเราคือรุ่นพี่ เย้! ” 


    คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันพูดออกมาพร้อมกับทำท่าทางแสดงความดีใจ(มั้ง)ออกมา 


    “ แล้วๆ เธอเรียนอยู่คณะไหนกันล่ะ? ” 


    “ อะ ฉันเรียนอยู่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศค่ะ ” 


    “ ว้าว! เราศึกษาอยู่คณะเดียวกันด้วย! ถ้าเดินสวนกัน หรือเดินผ่านกัน อย่าลืมทักทายด้วยล่ะ ” 


    ชายร่างสูงที่ชื่อว่าอาร์ตพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนที่เขายกกำหมัดในมือข้างข้างซ้ายเข้าไปต่อยหลังเพื่อนชายของเขาที่อยู่ด้านหน้าจนเจ้าตัวสะดุ้งและหันกลับมาเตะอีกฝ่ายแทน! 


    “ เอ่อ– ร-รุ่นพี่พอจะช่วยบอกทางหน่อยได้ไหมคะ ว่าห้องกิจการไปทางไหน ” 


    ในระหว่างที่เขากำลังจะตีกันอีกรอบ ฉันก็ตัดสินใจถามขึ้นมาก่อน


    “ จะไปห้องกิจการทำไมเหรอ? ” 


    รุ่นพี่กวางถามขึ้นมาก่อนจะเอียงคอมองฉันด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัย


    “ คือว่า ฉันเป็นนักเรียนทุนน่ะค่ะ กะว่าจะไปรายงานตัวให้เขาทราบก่อน ” 

     

    “ เธอคงจะเก่งมากแน่ๆ ถึงได้ทุนมาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่นี่นะ ให้ทุนนักศึกษาน้อยมากเลย ” 


    อาร์ตเอ่ยปากชมออกมาก่อนที่เขาจะยืนกอดอกพยักหน้าให้กับฉัน 


    “ แต่ว่านะ เหลือเวลาอีกตั้งสามวันแน่ะ จะเปิดภาคเรียน ดูรีบร้อนจังเลยนะ ” 


    หยางพูดออกมาพรอมกับมองสถานที่รอบๆภายในมหาวิทยาลัย 


    “ การมาเตรียมการก่อนก็ดีไม่ใช่เหรอคะ? ” 


    “ มันก็ดี แต่รีบเกินไปมันก็ต้องรอนะสิ ” 


    ทั้งหยางและอาร์ตพูดออกมาพร้อมกันก่อนจะกรอกตามองบน 


    “ งั้นเธอคงได้อยู่ในห้องพักที่มหาวิทยาลัยเตรียมให้สินะ ” 

    อาร์ตพูดออกมาพร้อมกับชี้ให้ฉันหันมองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สิ่งที่ฉันเห็นคือ ตึกสีขาว หอพักเป็นชั้นๆเหมือนกับอพาร์ทเม้นท์นอกชานเมืองเลย ติดแค่เพียงว่า มันหลายชั้น และสูงกว่ามาก


    “ พวกพี่พักอยู่ด้านนอกของมหาวิทยาลัย เพราะพวกเราไม่ใช่นักเรียนทุน ” 


    หยางเองก็หันไปมองตามทิศทางที่อาร์ตชี้ไปให้เห็น 


    “ งั้นเองเหรอคะ ” 


    “ โอเค พักเรื่องนี้ไว้กอนเถอะ เดี๋ยวพวกเราจะนำทางให้ ตามมาสิ ” 


    หยางหันมายิ้มให้กับฉันก่อนที่เขาจะก้มลงไปจับสายกระเป๋าสีดำของฉันที่ใส่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวขึ้นมาสะพายพาดบ่าของเขาก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินนำไป 


    “ เอ๊ะเดี๋ยวสิ กระเป๋าของฉัน มันหนักนะคะ! ” 


    ฉันตื่นตระหนกกับการกระทำของรุ่นพี่หยางก่อนที่จะรีบวิ่งมาขัดเขาทางด้านหน้าเอาไว้ก่อน 


    “ ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้เอง ถือซะว่าเป็นการขอโทษที่วิ่งชนก่อนหน้านี้นะ ” 


    รุ่นพี่หยางพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส ก่อนที่เขาจะเดินนำไปข้างหน้าอีกรอบ ฉันก็ได้แต่ยืนเลิ่กลัก ก่อนที่จะสิ่งตามหลังรุ่นพี่หยางไป 


    “ อิ๊ว แหวะ! ” 


    อาร์ตหันไปทำหน้าอี๋แหวะ เมื่อเห็นเพื่อนชายของเขาออกตัวช่วยรุ่นน้อง ก่อนที่เขาจะเดินตามหลับทั้งเพื่อนำชาย และรุ่นน้องของเขาไป 





     




    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น